คือ ฮอร์โมนกลุ่มเปปไทด์ ประกอบไปด้วยกรดอะมิโน 4 ตัวคือ
ไลซีน ออร์นิทีน อาร์จีนีน และ กลูตามีน จำนวนรวม 191 ตัวเรียงต่อกันเป็นสายยาว หลั่งจากต่อมใต้สมองส่วนหน้า ทำหน้าที่กระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์ในร่างกายมนุษย์ และสัตว์ที่มีกระดูกสันหลัง
HGH จะหลั่งเมื่อนอนหลับสนิท ในที่มืดไม่มีแสง ลำดับการหลั่งของโกรทฮอร์โมน คือ Melatonin > GABA > GHRH > HGH
และร่างกายต้องมีระดับของน้ำตาลในเลือดต่ำ (Hypoglycemia)
ส่วนปัจจัยที่มีผลยับยั้งการหลั่ง HGH คือ ระดับน้ำตาลในเลือดสูง (Hyperglycemia) ภาวะเครียดและมีการหลั่งคอร์ติซอล การนอนเปิดไฟ มีแสงสว่างรบกวน การขาดกรดอะมิโนที่เป็นสารตั้งต้นทั้ง 4 ตัว เมลาโทนินที่หลั่งไม่เต็มที่จากการอดนอน
ผลลัพธ์ที่ดีของ HGH
1.เพิ่มความหนาแน่นและความยืดหยุ่นของผิว ช่วยให้ผิวพรรณดีขึ้น จะเห็นได้ชัดเจนในคนผิวขาวว่าผิวใสเนียนขึ้น
2.เพิ่มการสังเคราะห์โปรตีน ช่วยให้การฟื้นฟูกล้ามเนื้อดีขึ้น
3.ช่วยลดไขมันในร่างกาย ลดไขมัน LDL ลง เพิ่มไขมัน HDL ซึ่งจะลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจ แต่ผู้ใช้ต้องออกกำลังกายและมีโภชนาการที่ดีด้วย
4.ฟื้นฟูจากการออกกำลังกายหนักๆได้ไว หรือ หายจากอาการ DOMS ได้เร็วขึ้น
5.ส่งเสริมความแข็งแรงของข้อต่อและเอ็น
6.เพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังไตได้ดีขึ้น แต่ต้องดื่มน้ำเยอะๆอย่างน้อย3-4ลิตร/วัน
7.เพิ่มการสร้างภูมิคุ้มกัน ป่วยยากขึ้น
8.การนอนหลับดีขึ้น หลับสนิท
ผลข้างเคียงที่อาจเจอของ HGH
บวมน้ำ อาจเกิดได้ในบางคน แต่เมื่อร่างกายปรับตัวได้ก็จะหายไปเอง ควรดื่มน้ำเยอะๆ 3-4 ลิตร เวียนหัวคลื่นไส้ เกิดได้หากน้ำตาลต่ำเนื่องจากร่างการจะใช้น้ำตาลได้ไว จึงควรกินอาหาร หรือ มีคาร์บเตรียมไว้หลังฉีด 30 – 1 ชม. หรือ ก่อนฉีด 1 ชม. แต่เป็นเฉพาะบางคน ส่วนใหญ่จะง่วงนอน หรือ รู้สึกอ่อนเพลีย
อาจมีอาการปวดเมื่อยตามข้อต่อบ้าง เนื่องจากHGH จะสร้างเซลล์เนื้อเยื่อของเส้นเอ็นขึ้นใหม่ด้วย ในกลุ่มที่ใช้โดสสูงๆ 3-4 iu ขึ้นไป
การใช้ HGH เบื้องต้น
ควรตรวจสุขภาพด้วยเช่นกัน เพื่อเช็คค่าต่างๆในร่างกาย ในกรณีที่ต้องการใช้แบบเพื่อการกีฬา หรือ สร้างกล้ามเนื้อ Supraphysiological ก็ควรจะตรวจตามหลักตรวจสุขภาพทั่วไป และตรวจค่าฮอร์โมนต่างๆด้วยเนื่องจากต้องใช้คู่กับ AAS เพราะการใช้ HGH เดี่ยวๆไม่อาจให้ผลด้านกล้ามเนื้อได้เต็มที่ เหตุผลเพราะ HGH จะสร้างมัดใยกล้ามเนื้อใหม่เพิ่มขึ้น (Hyperplasia)
แต่ไม่ได้ขยายขนาดของมัน จึงต้องใช้ AAS มาทำหน้าที่ขยายมัดใยกล้ามเนื้อที่สร้างขึ้นมาใหม่ (Hypertrophy) จึงต้องใช้คู่กัน หากใช้แบบ Anti-Ageing ก็ไม่จำเป็นต้องตรวจละเอียด
การเริ่มต้นใช้ HGH
HGH มีค่า Active Half-life 3.8 -4 hr. ขึ้นอยู่กับจุดที่ฉีด
หากฉีดเข้าชั้นไขมัน SubQ คือ บริเวณหน้าท้อง จะอยู่ได้ 3.8 ชม.
หากฉีดเข้ากล้ามเนื้อ IM อย่างเช่นจุดนิยม คือ ไหล่ จะอยู่ได้ 4 ชม.
Dose แนะนำเพื่อการAnti-Ageing คือ 1-3iu/วัน หรือ วันเว้นวัน จะฉีดแบบครั้งเดียว หรือแบ่งเป็น 2-3 ครั้งต่อวันก็ได้ ส่วนใหญ่จะนิยมฉีดในตอนตื่นนอนท้องว่างก่อนอาหาร 1ชม. และ ก่อนนอนหลังอาหารมื้อสุดท้าย 2 ชม.
และ ควรมีการใช้เป็นวงรอบ 2-3 เดือน แล้วพัก 1 เดือนค่อยเริ่มใหม่ เพื่อให้ร่างกายได้ปรับตัวใหม่อยู่ตลอดเวลา
โดยปกติ HGH เมื่อผสมแล้วในขวดแบบ Vial ควรใช้ให้หมดภายใน 8 สัปดาห์ และเก็บในตู้เย็นเท่านั้น การฉีดจะใช้เข็มฉีดอินซูลินในการฉีด ส่วนการผสมระหว่าง HGH ผงในขวด โดยปกติใน 1 ขวดจะมีปริมาณอยู่ 10 iu จะใช้น้ำเกลือปลอดเชื้อ Bacteriostatic (BAC) Water ในการผสม โดยใช้ BAC Water 1 ml. ต่อ HGH 1 ขวด
ทั้งนี้เรายังสามารถเพิ่มการหลั่งของ HGH ในร่างกายด้วยได้โดยการใช้อาหารเสริมเพิ่มเติม ในลุ่มกรดอะมิโนที่เป็นส่วนประกอบของ HGH เช่น L-Arginine
ในโดส 1000 มก. ขึ้นไป หรือ กลุ่ม Growth Hormone Secretagogue ที่มีทั้ง Peptides อย่าง Ipamorelin หรือ Non-Peptides อย่าง MK-677 ibutamoren เป็นต้นได้เช่นกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับโปรแกรมและแบบแผนเป้าประสงค์รวมถึงงบประมาณของแต่ละบุคคลครับ
สำหรับบทความนี้ ผิดถูก ตกหล่น ประการใด ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
Coach Bens
TINY BEAST TEAM
Online Training Line : @36mlohp / ig : erenbus23